สำหรับใครที่เป็นนักลงทุนมือใหม่ที่อาจเผชิญกับปัญหาอย่าง การไม่มีเวลามาติดตามสภาวะของตลาด ไม่มีประสบการณ์ลงทุนที่มากพอ ไม่มั่นใจว่าลงทุนด้วยตัวเองแล้วจะไปไหวหรือไม่ ถ้าหากคุณเผชิญหน้ากับปัญหาเหล่านี้ “กองทุนรวม” (Mutual Funds) ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ตอบโจทย์นักลงทุนมือใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Mutual Funds หรือ กองทุนรวม คืออะไร
Mutual Funds หรือ กองทุนรวม คือ การระดมเงินทุนจากนักลงทุนที่สนใจร่วมลงทุนหลายรายมารวมกันให้เป็นเงินลงทุนก้อนใหญ่ จากนั้นนำมาลงทุนตามนโยบายที่กองทุนรวมนั้นๆ กำหนดไว้ โดยมี “ผู้จัดการกองทุน” ที่เป็นมืออาชีพช่วยบริหารจัดการเงินของกองทุน ซึ่งกองทุนรวมมีจุดเด่นตรงที่ผู้ลงทุนมีทุนไม่มากก็สามารถลงทุนได้ แถมยังมีนโยบายการลงทุนที่หลากหลาย ทั้งกองที่ลงทุนในตราสารหนี้ หุ้นในประเทศ หุ้นต่างประเทศ รวมไปถึงอสังหาริมทรัพย์ ทองคำ และสินทรัพย์อื่นๆ
ประโยชน์ของการลงทุนในกองทุนรวม
1. สามารถกระจายการลงทุนเพื่อลดความเสี่ยงได้ โดยใช้เงินลงทุนจำนวนไม่มาก
2. มีนโยบายการลงทุนที่หลากหลาย สามารถใช้เป็นเครื่องมือในการลงทุนให้เหมาะสมกับความเสี่ยงและตรงตามเป้าหมายทางการเงินของผู้ลงทุนได้
3. สามารถรับสิทธิประโยชน์ทางภาษี สำหรับ SSF RMF และ TESG ตามเงื่อนไขของสรรพากร
4. มีมืออาชีพที่เข้าถึงข้อมูลเชิงลึกคอยบริหารจัดการให้ เพื่อสร้างความมั่นใจและลดภาระให้กับผู้ลงทุน
5. เพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ลงทุนในการติดตามการลงทุน จากข้อมูลและรายงานสถานการณ์ลงทุนที่ บลจ. จัดให้สม่ำเสมอ
การลงทุนในกองทุนรวม มีประเภทอะไรบ้าง
การลงทุนในกองทุนรวม นั้นเป็นหนึ่งในวิธีการลงทุนที่มีความหลากหลายในด้านของประเภทที่สามารถเลือกลงทุนได้ ซึ่งมันจะมีลักษณะที่แตกต่างกันออกไปตามวัตถุประสงค์การลงทุนของผู้ลงทุน เช่น
1. กองทุนรวมตลาดเงิน (Money Market Fund)
2. กองทุนรวมตราสารหนี้ (Fixed Income Fund)
3. กองทุนรวมผสม (Mixed Fund)
4. กองทุนรวมตราสารทุน (Equity Fund) หรือ กองทุนรวมหุ้น
5. กองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศ (Foreign Investment Fund: FIF)
6. กองทุนรวมเพื่อการออม (Super Savings Fund: SSF)
7. กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (Retirement Mutual Fund: RMF)
8. กองทุนรวมที่ลงทุนในทรัพย์สินทางเลือก (Alternative Investment)
แล้วกองทุนรวมแบบไหนถึงเหมาะกับเรา ?
เนื่องจากกองทุนรวมมีหลายประเภท นักลงทุนมือใหม่ก็อาจจะมีความสงสัยว่า แล้วต้องลงทุนแบบไหนล่ะมันถึงจะเหมาะสำหรับเราที่สุด ดังนั้นก่อนเริ่มต้นการลงทุนในกองทุนรวม ควรพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ เช่น กองทุนนั้นมีนโยบายการลงทุนที่เหมาะสมกับเราหรือไม่ กองทุนนั้นมีผลตอบแทนที่สม่ำเสมอหรือเปล่า และสุดท้ายอาจจะอยู่ที่ค่าธรรมเนียมของกองทุนนั้นอยู่ในเกณฑ์ที่เราสามารถรับได้หรือไม่ เป็นต้น
แต่สุดท้ายการลงทุนในกองทุนรวมก็ไม่ได้มีหลักการเลือกที่ตายตัว และเชื่อว่าไม่มีกองทุนไหนที่จะให้ผลตอบแทนที่ดีอย่างสม่ำเสมอตลอดไป ทำให้มีความจำเป็นต้องพิจารณา “ปัจจัยอื่น ๆ ” ที่เกี่ยวข้องประกอบด้วย เช่น ขนาดกองทุน กลยุทธ์การลงทุน ค่าสถิติที่แสดงความเสี่ยงของกองทุน รายละเอียดพอร์ตการลงทุน รวมไปถึงบริการเสริมด้านอื่นๆ เพื่อเพิ่มความสามารถหรืออำนวยความสะดวกในการลงทุน ซึ่งทาง บล.หยวนต้า ก็มีการให้บริการซื้อขายกองทุนได้หลายช่องทาง แถมยังให้คำปรึกษาผ่าน Call Center ในกรณีที่ผู้ลงทุนนั้นต้องการข้อมูลเพิ่มเติม
วิธีการลงทุนในกองทุนรวม
การลงทุนในกองทุนรวมนั้นมีขั้นตอนการสมัครและเอกสารที่เฉพาะเจาะจง ทาง บล.หยวนต้า จึงมีแพลตฟอร์มออนไลน์ช่วยทำให้กระบวนการดังกล่าวเป็นไปได้อย่างง่ายดายและตอบโจทย์กับผู้ลงทุนที่สนใจ จึงทำให้ผู้ลงทุนสามารถจัดการพอร์ตการลงทุนของตนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สุดท้ายนี้นักลงทุนมือใหม่ก็คงจะรู้จักกับ การลงทุนในกองทุนรวม กันไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งการลงทุนในกองทุนรวมนั้นมีความหลากหลายและสะดวกสบายสำหรับผู้ลงทุนทั้งมือใหม่และมือเก่าที่ต้องการกระจายความเสี่ยงและบริหารจัดการพอร์ตอย่างมีประสิทธิภาพ ตามกลยุทธ์ที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์การเงินของตนเอง
โดย บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด จะเป็นตัวแทนซื้อขายหน่วยลงทุนของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนชั้นนำ เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ลงทุนทุกท่าน นอกจากนี้ยังช่วยลูกค้าจัดพอร์ตการลงทุนได้อย่างสะดวกและเหมาะสม ตามวัตถุประสงค์ของการลงทุน ผลตอบแทนที่คาดหวัง ข้อจำกัดการลงทุน และระดับความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนยอมรับได้ ด้วยคำแนะนำการลงทุนของผู้แนะนำการลงทุนมืออาชีพและมีความเชี่ยวชาญด้านการลงทุนในตลาดทุน ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีความซับซ้อนหรือผลิตภัณฑ์ที่มีความซับซ้อนมากกว่าปกติก็ตาม
ซึ่งหากมีความสนใจจะการลงทุนในกองทุนรวม ผู้ลงทุนสามารถดาวน์โหลดข้อมูลกองทุนต่าง ๆ และแบบฟอร์มที่เกี่ยวข้องกับบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนชั้นนำตามรูปที่ปรากฏด้านล่างนี้ ได้เลย