การลดหย่อนภาษีเป็นเรื่องสำคัญที่ทุกคนควรให้ความสนใจ โดยเฉพาะมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มทำงานและเสียภาษี การวางแผนภาษีตั้งแต่ต้นปีช่วยให้คุณประหยัดเงินได้มากขึ้น และยังช่วยในการบริหารการเงินระยะยาว บทความนี้จะแนะนำ 4 กลุ่มลดหย่อนภาษีหลักที่มือใหม่ควรรู้ เพื่อช่วยให้คุณวางแผนการเงินได้อย่างชาญฉลาด
ทำไมมือใหม่ควรให้ความสำคัญกับการลดหย่อนภาษี
การลดหย่อนภาษีไม่เพียงแต่ช่วยประหยัดเงินในกระเป๋า แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการวางแผนการเงินระยะยาว มือใหม่ที่เริ่มศึกษาเรื่องนี้จะได้เรียนรู้การบริหารจัดการภาษีอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นทักษะสำคัญในการบริหารการเงินส่วนบุคคล
กลุ่มลดหย่อนภาษีที่ 1: ค่าลดหย่อนภาษีส่วนตัวและครอบครัว
กลุ่มนี้เป็นพื้นฐานที่ทุกคนควรรู้ ประกอบด้วย:
- ค่าลดหย่อนส่วนตัว 60,000 บาท
- ค่าลดหย่อนคู่สมรส 60,000 บาท (กรณีคู่สมรสไม่มีรายได้)
- ค่าลดหย่อนบุตร: คนแรก 30,000 บาท สำหรับบุตรคนที่ 2 ที่เกิดปี2561เป็นต้นไป ลดหย่อนได้คนละ 60,000 บาท
- ค่าลดหย่อนดูแลบิดามารดา: คนละ 30,000 บาท
- ค่าลดหย่อนดูแลคนพิการ: 60,000 บาท
- ค่าลดหย่อนฝากครรภ์และคลอดบุตร: ไม่เกิน 60,000 บาทต่อครรภ์
กลุ่มลดหย่อนภาษีที่ 2: ประกัน เงินออม และการลงทุน
กลุ่มนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการวางแผนการเงินระยะยาว:
1.เงินประกันสังคม
- ลดหย่อนได้ตามจริงแต่ไม่เกิน 9,000 บาท
2.การลดหย่อนเพื่อการเกษียณ (PVD, RMF และ SSF รวมกันไม่เกิน 500,000 บาท)
- เงินสะสมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD): ลดหย่อนได้ตามจริงไม่เกิน 15% ของเงินเดือน และไม่เกิน 500,000 บาท
- กองทุน RMF: ลดหย่อนได้ไม่เกิน 30% ของรายได้ *หมายเหตุ: เงินลงทุนในส่วนนี้เมื่อรวมกันแล้วต้องไม่เกิน 500,000 บาทต่อปี
- กองทุน SSF: ลดหย่อนได้ไม่เกิน 30% ของรายได้ หรือ 200,000 บาท
3.การลงทุนและประกัน
- กองทุน Thai ESG: ลดหย่อนได้ไม่เกิน 30% ของรายได้ หรือสูงสุดไม่เกิน 300,000 บาท
- เบี้ยประกันชีวิตรวมกับเบี้ยประกันสุขภาพ: ลดหย่อนรวมแล้วไม่เกิน 100,000 บาท
กลุ่มลดหย่อนภาษีที่ 3: เงินบริจาค
การบริจาคนอกจากช่วยเหลือสังคมแล้วยังช่วยลดหย่อนภาษีได้:
- เงินบริจาคทั่วไป: ลดหย่อนได้ไม่เกิน 10% ของเงินได้หลังหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อน
- เงินบริจาคเพื่อการศึกษา กีฬา และพัฒนาสังคม: ลดหย่อนได้ 2 เท่าของจำนวนที่บริจาค แต่ไม่เกิน 10% ของเงินได้หลังหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อน
- เงินบริจาคให้พรรคการเมือง: ลดหย่อนได้ตามจริงแต่ไม่เกิน 10,000 บาท
กลุ่มลดหย่อนภาษีที่ 4: มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐ
รัฐบาลมักมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ช่วยลดหย่อนภาษีได้
- โครงการ Easy E-Receipt: ลดหย่อนได้ตามจริงแต่ไม่เกิน 50,000 บาท
- ดอกเบี้ยเงินกู้ยืมเพื่อซื้อหรือสร้างที่อยู่อาศัย: ลดหย่อนได้ตามจริงแต่ไม่เกิน 100,000 บาท
- ค่าซื้อสินค้าหรือบริการจากผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม: ลดหย่อนได้ตามจริงแต่ไม่เกิน 30,000 บาท
เทคนิคการวางแผนลดหย่อนภาษีสำหรับมือใหม่
1.เริ่มวางแผนตั้งแต่ต้นปี
2.ทำความเข้าใจสิทธิลดหย่อนภาษีที่ตนเองมี
3.จัดลำดับความสำคัญของรายการลดหย่อนภาษี
4.ใช้เครื่องมือคำนวณภาษีออนไลน์
5.เก็บเอกสารหลักฐานอย่างเป็นระบบ
ข้อควรระวังในการใช้สิทธิลดหย่อนภาษี
- ตรวจสอบเงื่อนไขการใช้สิทธิแต่ละประเภทให้ชัดเจน
- ระวังการใช้สิทธิซ้ำซ้อน
- คำนึงถึงผลตอบแทนและความเสี่ยงในการลงทุนเพื่อลดหย่อนภาษี
วิธีการยื่นแบบแสดงรายการเพื่อเสียภาษี
1.ยื่นแบบผ่านอินเทอร์เน็ต (e-Filing)
2.ยื่นแบบผ่านแอปพลิเคชัน RD Smart Tax
3.ยื่นแบบด้วยตนเองที่สำนักงานสรรพากร
ประโยชน์ของการวางแผนลดหย่อนภาษีอย่างชาญฉลาด
การวางแผนลดหย่อนภาษีอย่างชาญฉลาดไม่เพียงช่วยประหยัดเงินได้มากกว่าที่คิด แต่ยังสร้างวินัยทางการเงินในระยะยาว และช่วยเตรียมพร้อมสำหรับอนาคตทางการเงินที่มั่นคง มือใหม่ควรเริ่มศึกษาและวางแผนลดหย่อนภาษีตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อประโยชน์สูงสุดในการบริหารการเงินส่วนบุคคล
หากคุณต้องการเริ่มต้นการลงทุนเพื่อลดหย่อนภาษีอย่างมีประสิทธิภาพ Yuanta พร้อมให้คำแนะนำและบริการที่ครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในกองทุนรวม RMF, SSF หรือ Thai ESG เรามีผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษาและเครื่องมือที่จะช่วยให้คุณวางแผนการลงทุนได้อย่างเหมาะสมกับเป้าหมายทางการเงินของคุณ นอกจากนี้ Yuanta ยังมีบทความความรู้และสัมมนาออนไลน์ที่จะช่วยเพิ่มพูนความรู้ด้านการลงทุนและการวางแผนภาษีให้กับคุณ เริ่มต้นวางแผนการเงินและลดหย่อนภาษีอย่างชาญฉลาดกับ Yuanta วันนี้ เพื่ออนาคตทางการเงินที่มั่นคงของคุณ