กำลังซื้อชนชั้นกลางพุ่ง อุตสาหกรรมไหนได้ประโยชน์?
ชนชั้นกลางเป็นกลุ่มที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ เมื่อรายได้ของกลุ่มนี้เพิ่มขึ้น กำลังซื้อของพวกเขาก็เพิ่มขึ้นตาม ส่งผลให้หลายอุตสาหกรรมได้รับประโยชน์จากพฤติกรรมการใช้จ่ายที่เปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคภายในประเทศ หยวนต้าได้รวบรวมข้อมูล 5 อุตสาหกรรมพร้อมยกตัวอย่างหุ้นที่คาดว่าได้รับประโยชน์จากอิทธิพลของชนชั้นกลาง
1. อุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ (Real Estate Industry)
เนื่องจากชนชั้นกลางมีรายได้ที่ค่อนข้างสูงขึ้น ทำให้สามารถลงทุนในที่อยู่อาศัย ทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ หรือคอนโดมิเนียมง่ายขึ้น นอกจากนี้ความต้องการโครงการอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ เช่น ห้างสรรพสินค้า อาคารสำนักงาน และโรงแรม ก็เพิ่มขึ้นเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไป
ตัวอย่างบริษัทที่ได้รับประโยชน์
- Vinhomes JSC (VHM) – บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม ที่มีโครงการที่อยู่อาศัยระดับพรีเมียม
- Novaland Group (NVL) – ผู้พัฒนาโครงการบ้านจัดสรรและคอนโดมิเนียม ที่มุ่งเน้นกลุ่มชนชั้นกลางถึงระดับไฮเอนด์
2. อุตสาหกรรมค้าปลีก (Retail Industry)
เมื่อมีรายได้ที่เพิ่มขึ้น ทำให้ชนชั้นกลางหันมาใช้จ่ายกับสินค้าอุปโภคบริโภค ทั้งเสื้อผ้า เครื่องใช้ไฟฟ้า และสินค้าไลฟ์สไตล์มากขึ้น ร้านค้าปลีกสมัยใหม่ (Modern Trade) เช่น ห้างสรรพสินค้า ไฮเปอร์มาร์เก็ต และร้านสะดวกซื้อ จึงขยายตัวอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้การเติบโตของอีคอมเมิร์ซและค้าปลีกออนไลน์ยังทำให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงสินค้าได้สะดวกยิ่งขึ้น
ตัวอย่างบริษัทที่ได้รับประโยชน์
- Mobile World Investment Corporation (MWG) – บริษัทค้าปลีกรายใหญ่ของเวียดนาม เจ้าของแบรนด์ Thegioididong (TGDD) มีเครือข่ายร้านค้าสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และโทรศัพท์มือถือขนาดใหญ่
- Saigon Co.op – ผู้ดำเนินธุรกิจซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านสะดวกซื้อ ที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคชนชั้นกลาง
3. อุตสาหกรรมบันเทิงและการท่องเที่ยว (Entertainment & Tourism Industry)
เมื่อมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้น ชนชั้นกลางจึงมีแนวโน้มใช้จ่ายด้านความบันเทิงและการท่องเที่ยวมากขึ้น เช่น ธุรกิจโรงแรม รีสอร์ต และสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศขยายตัวเพื่อตอบรับความต้องการของตลาด ในขณะเดียวกัน ธุรกิจสื่อบันเทิง เช่น โรงภาพยนตร์ สวนสนุก และกิจกรรมสันทนาการก็ได้รับอานิสงส์จากแนวโน้มดังกล่าว
ตัวอย่างบริษัทที่ได้รับประโยชน์
- Vietnam Travel and Marketing Transports (VTR) – บริษัทให้บริการท่องเที่ยวรายใหญ่ของเวียดนามที่ดำเนินธุรกิจทัวร์ โรงแรม และบริการเดินทาง
- FLC Group (FLC) – กลุ่มบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่มีธุรกิจรีสอร์ต สนามกอล์ฟ และการท่องเที่ยวหรู
4. อุตสาหกรรมยานยนต์และขนส่ง (Automotive & Transportation Industry)
ชนชั้นกลางที่มีกำลังซื้อเพิ่มขึ้นมักมองหายานพาหนะที่สะดวกสบายขึ้น ส่งผลให้ตลาดรถยนต์และรถจักรยานยนต์เติบโต นอกจากนี้ระบบขนส่งสาธารณะ เช่น รถไฟฟ้าและรถโดยสารสมัยใหม่ ก็ได้รับความสนใจมากขึ้นจากผู้บริโภคที่ต้องการความสะดวกและความปลอดภัยในการเดินทาง
ตัวอย่างบริษัทที่ได้รับประโยชน์
- VinFast (บริษัทลูกของ Vingroup) – บริษัทผลิตรถยนต์สัญชาติเวียดนามที่กำลังขยายตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ
- Vietnam Airlines (HVN) – สายการบินแห่งชาติที่ได้รับประโยชน์จากการเดินทางที่เพิ่มขึ้นของชนชั้นกลาง
5. อุตสาหกรรมการศึกษาและสุขภาพ (Education & Healthcare Industry)
เมื่อรายได้เพิ่มขึ้น ชนชั้นกลางให้ความสำคัญกับการศึกษาของบุตรหลานและการดูแลสุขภาพมากขึ้น ส่งผลให้โรงเรียนเอกชน มหาวิทยาลัย และสถาบันกวดวิชาเติบโตขึ้น ในขณะเดียวกันโรงพยาบาลเอกชนและคลินิกเฉพาะทางก็ขยายตัว เพื่อตอบสนองความต้องการด้านสุขภาพที่เพิ่มขึ้น
ตัวอย่างบริษัทที่ได้รับประโยชน์
- Vingroup (VIC) – Vinmec & Vinschool – เครือโรงพยาบาลและสถาบันการศึกษาที่ตอบสนองชนชั้นกลาง
- Hoan My Medical Corporation – กลุ่มโรงพยาบาลเอกชนที่ขยายสาขาเพื่อรองรับความต้องการของประชาชน
การเติบโตของชนชั้นกลางมีผลโดยตรงต่ออุตสาหกรรมหลายประเภท โดยเฉพาะอสังหาริมทรัพย์ ค้าปลีก บันเทิง การท่องเที่ยว ยานยนต์ ขนส่ง การศึกษา และสุขภาพ ธุรกิจที่สามารถตอบสนองความต้องการของกลุ่มชนชั้นกลางได้อย่างมีประสิทธิภาพจะมีโอกาสเติบโตในระยะยาว ในขณะที่เศรษฐกิจของประเทศก็ได้รับผลบวกจากการบริโภคภายในที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน คว้าโอกาสลงทุนในตลาดหุ้นเวียดนามกับหยวนต้าผ่านกระดานหุ้นไทยกับ 4 หุ้น DR VNM19/ FPTVN19/ VCB19 และ MWG19